- 
        เกาะปีนังหรือไข่มุกตะวันออก  (PearloftheOrient) ซึ่งเป็นอาณานิคมอันเก่าแก่ที่สุดของอังกฤษใน ประเทศมาเลเซีย  เกาะปีนังมีพื้นที่ 285 กิโลเมตร อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  ของแหลมมาลายูปีนังเป็นเมืองที่คนไทยคุ้นเคย รู้จักกันมากที่สุด  ในบรรดาเมืองต่างๆของมาเลเซีย ปีนังเป็นเมืองที่มีบรรยากาศ  ขนบธรรมเนียมที่เป็นจีนมากที่สุดกว่าทุกเมืองในมาเลเซีย  ประวัติศาสตร์เมืองปีนังเริ่มต้น  ไม่แพ้กับเมืองมะละกา  ซะเท่าไร เมื่ออังกฤษมาเปิดเมืองท่าขึ้นที่นี่เป็นแห่งแรก ในปี ค.ศ. 1786  ปัจจุบันปีนังเป็นเมืองที่ทันสมัยเมืองหนึ่งของมาเลเซีย  ที่ซึ่งมีบรรยากาศของวัฒนธรรม ตะวันตกกับตะวันออก  ที่ผสมผสานกันได้อย่างมีเสน่ห์ กลมกลืน นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว  สำหรับผู้ที่รักในการช็อปปิ้ง  ปีนังถือว่าเป็นสวรรค์ของนักช็อปปิ้งไม่แพ้เมืองใดในโลกในเรื่องอาหารการกินปีนังก็มีอาหารอร่อยเช่นเดียวกัน  เหนือสุดด้านตะวันออกของเกาะเป็นที่ตั้งของเกาะเป็นที่ตั้งของเมือง Georgetown ซึ่งเป็นที่ตั้งของส่วนราชการและศูนย์กลางธุรกิจของรัฐท่ามกลางความแออัดเบียดเสียดของสภาพการเมืองท่านสามารถเห็นการผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ของตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างน่าทึ่งที่  สุด ดังจะเห็นได้จากสถาปัตยกรรม ที่ประณีตสวยงามของอาคารเก่าหลายหลัง  ที่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของต่างชาติในอดีต  เสน่ห์ความงามของชายหาดปีนังที่โด่งดัง และ ทะเลน้ำอุ่นที่นิ่งสงบ  ปีนังในปัจจุบันจึงกลายเป็นสถานที่พักตากอากาศที่เป็นที่นิยมของผู้ที่คลั่งไคล้ทะเลและแสงแดดจากการที่มีประชากรที่มีความหลากหลายของเชื้อชาติความมั่งคั่งทางวัฒนธรรและการมีเทศกาลต่างๆมากมาย  ทำให้ปีนังเป็นที่สนใจและสามารถสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวให้เก็บปีนังไว้ในความทรงจำตลอดไป
 
 
- 
  ป้อมปราการคอร์นเวลลิส
 สร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่  17 แต่เดิมทำด้วยไม้ ภายหลังจึงเปลี่ยนมาเป็นคอนกรีตในปี ค.ศ.1804 ใช้แรงงานนักโทษ  ก่อสร้างที่ป้อมนี้มีโรงละครกลางแจ้ง  ส่วนภายในป้อมเป็นศูนย์ศิลปหัตถกรรมของชาวพื้นเมือง มีโบราณวัตถุที่สำคัญคือ  ปืนใหญ่ ที่ชื่อว่า สรีรัมไบ (Sri Rambai)  เป็นโบราณสถานของชาวดัทช์มอบให้สุลต่านแห่งยะโฮร์ ผู้ปกครองเมืองปีนังในสมัยนั้น
 
 
- 
  จอร์จทาวน์(Georgetown)                                                                         
 เป็นย่านเมืองเก่าที่มีลักษณะผสมของชาวยุโรปกับชาวตะวันออก  ผสมผสานกันอย่างลงตัว สร้างถวายเพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งอังกฤษ  เป็นชุมชนแห่งแรกของอังกฤษบนเกาะปีนัง  ในอดีตเป็นท่าเรือเฟอร์รี่ที่คึกคักด้วยพ่อค้าจากทั่วทุกมุมโลก
 
 
- 
  พิพิธภัณฑ์ปีนังและArtGalleryย่านLebuhFarquhar 
 สร้างขึ้นในปี  1821 พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงภาพถ่ายเก่าๆ แผนที่ และ  วัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์  นอกจากนี้  ยังมีการแสดงกริชของมาเลย์ เฟอร์นิเจอร์แบบจีน ผ้าปัก และ  ภาพวาดเมืองปีนังในสมัยก่อน Art Gallery บนชั้นที่ 1  เป็นที่จัดแสดงผลงานต่างๆด้านหน้าอาคารมีรูปปั้นของ Francis Light  ตั้งเด่นงามสง่า
 
 
- 
  มัสยิด Kapitan Kelling  
 เป็นมัสยิดที่ขนานตามชื่อของพ่อค้าชาวอินเดียมุสลิม  Kapitan Keling (headman) Caudeer Mohudeen  ซึ่งเป็นผู้สร้างมัสยิดดังกล่าว   เมื่อต้นทศวรรษที่ 19 ตัวอาคารภายนอกทาสีเหลือง  ลักษณะสถาปัตยกรรมของอาคารจะมีโดมยอดแหลมที่สะท้อนอิทธิพลของแขกมูริชอิสลาม  การเข้าเยี่ยมชมภายในจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ประจำมัสยิดก่อน
 วัดเจ้าแม่กวนอิม  (Goddes  of Mercy Temple)
 เป็นวัดจีนที่เก่าแก่วัดหนึ่งในปีนัง  วัดนี้สร้างขึ้นในปี 1800 โดยชาวจีนรุ่นแรกๆที่เข้ามาตั้งรกรากในปีนังตัวอาคารประดับประดาด้วยมังกรที่วิจิตรพิศดาร  ด้านหน้ามีสิงโตแกะสลักจากหิน ที่เล่ากันว่ามีไว้เพื่อปกปักษ์รักษาสถานที่นี้  ในแต่ละวันจะมีฝูงชนที่เลื่อมใสศรัทธาหลั่งใหลกันมาสักการะบูชาตลอดปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลฉลองประจำปีซึ่งได้แก่วันที่19เดือนสอง  เดือน หก และ เดือนเก้าตามปฏิทินจันทรคติ
 
 
- 
  วัด Sri Mariamman 
 สร้างขึ้นในปี  1833 วัดนี้เป็นวัดฮินดู เหนือประตูทางเข้าด้านหน้า   มีเทวรูปเทพเจ้าประดิษฐานอยู่ส่วนภายในประดิษฐานเทวรูปพระเจ้า  Sri Mariamman ประดิษฐานอยู่  ที่ล้ำค่าซึ่งตกแต่งด้วยทองคำ เงิน เพชร และ มรกต ในเทศกาล Thaipusam ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปี  จะมีการนำเทวรูปดังกล่าวแห่แหนไปรอบเมืองบนรถม้าเงิน เพื่อไปยังวัดบนถนน Waterfall KhooKongsi บ้านของตระกูล  Khoo Kongsi  ถือว่าเป็นบ้านที่โอ่โถงและหรูหราที่สุดบนเกาะแห่งนี้ ต้นตระกูล Khoo อพยพมาจากประเทศจีนตอนใต้ และ  ได้สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นเพื่อเป็นบ้านประจำตระกูล Khoo  เริ่มก่อสร้างราวปี 1898 ตัวอาคารมีความสง่างามวิจิตรพิศดาลมากและ  ได้เกิดเหตุไฟไหม้ที่หลังคา  เมื่อสร้างเสร็จใหม่ๆเชื่อกันว่าเป็นเพราะไปสร้างเลียนแบบพระตำหนักของพระจักรพรรดิจีนจึงได้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น  ภายในโถงอาคารตกแต่งด้วยลวดลายไม้แกะสลักฉลุลายที่งดงามมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคานไม้เป็นไม้เนื้อดี ประดับประดาตัวคานไว้อย่างวิจิตรพิสดาร  สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศ ของฝีมืองานช่างจากเมืองจีนโดยแท้
 
 
- 
  หอนาฬิกาPesaraKingEdward 
 เป็นหอสูง  60 ฟุต ซึ่งได้รับบริจาคจาก เศรษฐีปีนังชื่อ Cheah Chen Eok ในปี  1897เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง ครบรอบ 50 ปี พระราชินีวิดตอเรีย
 
 
- 
  ศาลากลางจังหวัด 
 สร้างขึ้นในศตวรรษที่  1880 อาคารสมัยอาณานิคม   หลังนี้เป็นอย่างความสวยงามของสถาปัตยกรรมบริทิชพาราไดซ์  ที่มีลักษณะเด่นของเสาแบบกรีกโบราณที่สง่างาม และ  หน้าต่างบานใหญ่ครั้งหนึ่งอาคารดังกล่าวได้เคยเป็นที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่นมาแล้ว
 
 
- 
  โบสถ์ St.George 
 สร้างขึ้นจากแรงงานนักโทษในปี  1818  เป็นสถานที่ๆที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของปีนังเป็นโบสถ์นิกายแองกลิแคนของอังกฤษ  ประตูทางเข้าของโบสถ์นี้ขนานนามตามชื่อนักบุญที่คุ้มครอง ประเทศอังกฤษ  ซึ่งมีลักษณะเป็นหลังคาครอบเพื่อเป็นที่ระลึกมอบให้แด่กัปตัน Francis Light
 . KOMTAR
 Tun Abdul Razak Complex หรือ KOMTAR เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของปีนัง  ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยราชการ สำนักงานธุรกิจต่างๆ ตลอดจนห้างสรรพสินค้า ร้านค้า  และ ภัตตาคารKOMTAR เป็นอาคารสูง 65 ชั้น  เป็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นเป็นสง่าของเมืองในคอมเพล็กซ์นี้ยังมีโรงภาพยนต์คอร์ทสคอช  และ โดมรูปโลกที่ใช้เป็นหอประชุมอเนกประสงค์ และ ที่ชั้น 55  เป็นที่ชมทิวทัศน์ของเมืองปีนังในวันที่อากาศแจ่มใสจะสามารถมองเห็นไปได้ไกลถึงGunungJerai หรือยอดเขา Kedah บนแผ่นดินใหญ่
 .ไซน่าทาวน์(ChinaTown)
 ย่านคนจีนในปีนังนี้  เป็นย่านชุมชนที่ค่อนข้างใหญ่มาก กินพื้นที่ยาวตลอด ตั้งแต่ย่านWeld Quay ถึงย่าน Lebuh Stewart, Lebuh  Muntri,Lebuh Campbell ไปจนถึง Lebuh Kingย่านคนจีนในปีนังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี  ทำให้เราสามารถเห็นสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชุมชนชาวจีน  ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐาน ในอดีตตั้งแต่ในปี 1800  โดยท่านสามารถเห็นร่องรอยในอดีตของสภาพตึกรามบ้านช่องร้านค้าและวัดบนถนนเหล่านี้
 
 .วัดไทยชัยมังคลาราม
 เป็นวัดของศาสนาพุทธในปีนังสร้างด้วยศิลปะแบบโบสถ์ไทย  เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ความยาวองค์พระ 32 เมตร  ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพระนอนที่ยาวที่สุดในโลกอยู่ด้านขวาของถนนพม่าอีกฟากหนึ่งเป็นวัดของพม่า
 .วัดDharamikarama                                                                                            
 ซึ่งเป็นวัดพม่าอยู่ในซอย Lorong Burma  ที่หน้าประตูทางเข้าวัดมีรูปปั้นช้างแกะ 1 คู่  เชื่อกันว่ามีเอาไว้สำหรับเฝ้าประตูวัดที่ลานเจดีย์จะมีต้นโพธิ์ และ  บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในเทศกาลช่วงเดือนเมษายนจะมีการจัดกิจกรรมมากมาย
 .วัด  เค็ก ล็อก ซี Kek  Lok Sri 
 ตั้งอยู่บนยอด  Ayer Hitam เป็นวัดพุทธศาสนาของจีนที่ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 20 ปี  ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดจีนที่สวยที่สุดด้วยองค์เจดีย์ทองที่ประดับด้วยพระพุทธรูปแกะสลักหมื่นองค์  "Pagoda of 10,000 องค์